| ไปที่หน้า ก่อนหน้า 1, 2, 3 ... , 28, 29, 30 ถัดไป |
| ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
ผู้เยี่ยมชม
|
 ตอบเมื่อ: Sat Nov 04, 2006 8:44 pm เรื่อง: |
 |
|
การสอบเข้ามาเรียนได้ถือว่ามีคุณภาพระดับหนึ่ง
แต่การเรียนให้จบและมีคุณภาพนั้นยาก ขึ้นอยู่กับ
ปัจจัยหลายอย่าง เช่น ตัวนักศึกษาเอง สิ่งแวดล้อม
สถาบัน และผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ที่นักศึกษาจะต้อง
ใหว้ครูทุกปี ปกตินิสัยคนไทยจะเป็นคนที่เคารพ
ผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ ยิ่งถ้าเป็นคนอีสานด้วยแล้ว
ความเคารพผู้ใหญ่อยู่ในใจทุกคน แต่การที่นักศึกษา
มีปัญหากับอาจารย์ในเรื่องของส่วนรวมโดยไม่มีผล
ประโยชน์แอบแฝง และการเมืองมาเกี่ยวข้องแล้ว
แสดงว่าอาจารย์คงจะมีปัญหาจริงๆ ที่ทำให้คนที่เคย
ยกมือไหว้ มายกมือไล่พร้อมเสียงโห่ ผมละอายใจแทน
เป็นผม ๆจะไปหางานทำใหม่ดีกว่า |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
 |
ม่...ครับ
ป๋า
เข้าร่วม: 27 Dec 2001
ตอบ: 556
ที่อยู่: ...นั่นดิ
|
| ตอบเมื่อ: Sat Nov 04, 2006 8:55 pm เรื่อง: |
|
|
... 
...ผู้ชายไว้ผมยาวรกรุงรัง ไม่ได้แปลว่า เขาไม่รักษาความสะอาด...
...งงงกับความข้างบนไหมครับ กับประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่ในเรื่องราวว่า ปัญญาชน / ปฏิกิริยาโห่ร้อง / ประเด็นคำถาม-คำตอบ / เหตุผล / ...
...ลองถอยออกมาสักก้าว แล้วมองย้อนกลับไป จวบจนวันที่เกิดเหตุการณ์...ครับ
อีกเรื่อง...สำหรับน้องๆภาคพิเศษ...ซึ่งถูกคัดเ้ข้ามาด้วยเกณฑ์อะไรอย่างไรผมก็ไม่ทราบแน่ชัด...โดยเกณฑ์เฉลี่ยทั่วไป อาจจะเรียนรู้ได้ไม่ไวเท่านักศึกษาภาคปกติ...แต่ทว่า ก็ขึ้นอยู่กับคนที่คิดว่าตัวเองเป็นครูนั้น หรือเป็นรุ่นพี่นั้น ได้ปฏิบัติกับน้องๆ อย่างไรด้วย...ให้โอกาสหรือเปล่า ช่วยเหลือหรือไม่...ฯ
ในสมัยที่ผมเรียน มีพวกโควต้า หมายถึงนักศึกษาในภูมิภาค สอบเข้าตรงกับทางมหาวิทยาลัยฯ และพวกเอ็นท์ หมายถึงนักศึกษาที่สอบกับทางทบวงมหาวิทยาลัยจัดสอบ...ปีหนึ่งปีสองก็พอมองเห็นความต่าง พอปีสี่ปีห้านี้ ก็เรียนรู้เท่าทันกันหมด...ครับ
(ส่วนผมเสมอต้นเสมอปลายในเรื่องขี้เกียจ...  ...ครับ)
การสอนเด็กหัวดีให้เรียนเก่งนั้น กับการสอนเด็กเรียนรู้ช้าให้ทำงานเป็นนั้น...ก็อยู่ที่อาจารย์ของพวกคุณจะเลือกแนวทางไหน...และนักศึกษาก็น่าจะลองถามใจตัวเองดูสักหน่อย...ว่า คุณเป็นคนเช่นไร...ใจคุณจะเลือกทางใด...ครับ
_________________
P.O.Box 69 KKU. 40002 / คุยธุระ : 081-662-1020 / เม้าธ์กันนานๆ : 081-544-6498 |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sat Nov 04, 2006 9:22 pm เรื่อง: |
|
|
| ความน่ากลัวก็คือเราไม่รู้จักตัวเอง ยังคิดว่าตัวเองดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง :-? |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ผู้อยู่ในเหตุการ
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sat Nov 04, 2006 11:05 pm เรื่อง: |
|
|
เพื่อความกระจ่าง มั่ง ไม่กระจ่างมั่ง
การเข้ามาอธิบาย เหตุผลที่มาที่ไปว่าเหตุใดผมจึงเห็นด้วยกับการแสดงความเห็นออกมาโดยตรง
ไม่ได้กระทำขึ้นเพื่อให้เกิดการแยกออกเป็น 2 ฝ่าย
ผมเพียงบอกว่า ผมเห็นด้วยในการที่ เด็กๆ กล้าจะแสดงความเห็นออกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม
สงสัยก็ถาม ผมไม่อยากให้เด็กเป็นเหมือนผู้ใหญ่ยุคนี้ ที่คอยเอาแต่คอยแหย่ คอยแยงอยู่วงนอก ในที่ลับตา หรือ ที่ที่อันตรายไม่อาจเอื้อมถึง
ผมชื่นชมในความกล้าหาญที่จะเอาตัวเอง เข้าเผชิญหน้ากับปัญหา ไม่ใช่เอาตัวเองให้ห่างจากปัญหาและระบายออกแค่เพียงการบ่นที่ไร้ประโยชน์ ในที่ลับตาคน
นักศึกษา ไม่โง่แน่นอนครับ เคารู้ว่าถ้าเค้าพูดออกไป แสดงตัวออกไปจะมีอะไรตามมา
แต่นักศึกษาไม่เห็นแก่ตัวครับ เค้ารู้ว่าถ้าไม่ทำอะไรปล่อยผ่านเลยไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครับ ตอนอยู่ร่วมก็ไม่รู้สึกว่าจะมีการใช้วาจารุนแรง
ไม่มีคำหยาบคาย เสียงฮือ ฮา น้นอืออึงขึ้นจากอะไรครับ ถ้าอยู่ในเหตุการณ์คงรู้นะครับ
แต่นั่นยังไม่พอที่จะทำให้แน่ใจ กลับมาฟังเทปอีกรอบ ก็ไม่เห็นถ่อยคำรุนแรงตรงไหน
อย่าเปิดประเด็นแปลกๆ ได้ไหมครับ ไม่ต้องตั้งตัวเป็นผู้รักษาคุณธรรมที่ไม่จำเป็นหรอกครับ
หรือเป็นเจ้ากระทรวงวัฒนธรรมครับ
นักศึกษาที่ขึ้นพูดวันนั้นผมรู้จักเค้าดีทุกคน ทุกคนเป็นเด็กมีสัมมาคารวะ
กับอาจารย์ทุกท่านไม่ว่าสอนหรือไม่สอน ไม่เว้นแม้แต่พี่พี่ฝ่ายอื่นๆที่ไม่ใช่อาจารย์
น้องๆเค้าก็ให้ความเคารพ กันเป็นอย่างดี
หากการที่น้องๆแสดงตัว ออกความคิดเห็นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะควร พี่พี่ ผู้มีคุณธรรมกรุณาทำอะไรซักอย่างนอกจาก ว่าจะ ว่าจะ เตรียมอยู่ ใกล้แล้วได้หรือไม่
ถามกันตรงนี้อย่างตรงไปตรงมา และหวังบ้าง แม้จะน้อยนิด
สมาคมศิษฐ์เก่า ทำอะไรไปแล้วบ้างครับ |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sat Nov 04, 2006 11:18 pm เรื่อง: |
|
|
น่าผิดหวังมากที่อาจารย์บางท่าน พูดอย่างเต็มปากว่า แอนตี้หลักสูตรภาคพิเศษ ทั้งที่บางท่านก็ทราบดีว่าเป็นนโยบายที่จำเป็นต้องทำ โดยการบีบงบประมาณของมหาวิทยาลัย
เศรษฐกิจแบบเพียงพอกับการไม่ทำอะไรเลย อยู่ๆ กันไปตามมีตามเกิด คนละเรื่องกันนะ เผลอๆ จะพาคณะถอยหลังเข้าคลองเอา หันหน้าหันหลังดูที่อื่นบ้างก็ดี ว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว
ปัญหาของภาคพิเศษอยู่ที่เราควรจัดสอบให้มีมาตรฐานและไม่ควรรับมากเกินไปต่างหาก
หากช่วยกันสอน ต้องทำให้มีมาตรฐานได้อยู่แล้ว
กลายเป็นว่า ตอนนี้เราเกลียดคนๆ หนึ่งจนหน้ามืดตามัว จนแอนตี้กันทุกเรื่องแม้กระทั่งไม่สอนเด็กที่รับมาแล้วอย่างนั้นหรือ
ไม่แปลกใจหากในอนาคตการยอมรับ บัณฑิตจาก สถาปัตย์ มข. มีน้อยลง เพราะความอดทนอดกลั้นมีน้อยมาก ประท้วงอาจารย์ตัวเองยัง...ขนาดนี้ (คำพูดและกริยาไม่น่ารักอย่างยิ่ง สำหรับบางคน) และไม่แปลกใจหากรุ่นหลังๆ จะตกงานเพิ่มขึ้น ปากสถาปนิกในวงการเร็วกว่าแสง
โลกใบใหญ่ยังมีคนที่ท่านคิดว่าเลวในมาตรฐานท่าน อีกมากมาย มีเกือบทุกองค์กร โดยเฉพาะหน่วยงานของรัฐ หากท่านไม่รู้จักการจัดการแบบนุ่มนวล ท่านจะอยู่รอดในสังคมอย่างไร มิกลายเป็นม๊อบประท้วงที่ไม่ค่อยน่ารักโดย ถาปัด มอขอเต็มบ้านเต็มเมืองหรือ
สุดท้ายก็ผันตัวเป็นสถาปนิกอิสระกันหมดเพราะทนไม่ได้ แล้วก็ยังไปเจอลูกค้าเลวๆ ให้ประท้วงจนได้อีกนั่นแหละ
อาจารย์และพี่ๆ ควรจะตักเตือนกันบ้าง ไม่ใช่ยุส่งด้วยความสะใจอย่างเดียว |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ผู้อยู่ในเหตุการ อีกแล้ว
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sat Nov 04, 2006 11:34 pm เรื่อง: |
|
|
เอาให้จบไปเป็นข้อๆ
อย่าเอาแค่สิ่งที่ตัวเองได้ยินมาเหมารวมว่าเราแอนตี้น้องๆ ไม่ให้ความรักและไม่เห็นเค้าเป็นน้อง
ความคิดนี้ไม่ได้อยู่ในสมองของใครหลายคน
คนไม่ปวดขี้ ไม่คิดจะขี้นะครับ คนที่ขี้ออกมาคือคนที่ปวด ถูกไหมครับ
เราพูดคุยกับน้อง สร้างความเข้าใจและบอกที่มาที่ไปของสิ่งที่เรากำลังกระทำอยู่ทุกอย่าง
มันไม่ใช่เรื่องที่ว่าเด็กภาคพิเศษเป็นเด็กโง่ (เอาอีกแล้วนะครับ ก็อย่างที่บอกคนไม่ปวดขี้ ไม่คิดจะขี้ )
แต่มันเป็นเรื่องของความยากลำบากในการผลิ
ซึ่งความยากลำบากนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ คุณภาพนักศึกษาเลย
หากมีเวลามากกว่า 5 ปี
หากมีอาจารย์ในจำนวนที่เหมาะสมกว่านี้
หากมีความพร้อมด้านอุปกรณืต่างๆ
เอาเด็ก ปัญญาอ่อนมาเรียนเราก็สร้างได้ครับ
แต่ที่นี่มีเวลา 5 ปี และต้องไม่เกิน 10 ปี
ที่นี่มีอาจารย์ 37 คน กับอีก 5 คนที่เรียนต่ออยู่
ที่นี่มีห้องปฏิบัติการ หรือห้องปฏิการของใครบางคน ที่เหมาแก่คนเพียงครึ่งของที่มีอยู่ตอนนี้
เรายังควรขวนขวาายเอาเด็กจำนวนมากมาปันอยู่หรือ
ผมยกตัวอย่างให้น้องฟังอย่างนึงในวันที่เรา พี่น้องที่ยังเรียนอยู่มาคุยกัน (อย่าถามว่าเราเอาภาคสมทบมาคุยมั้ย เพราะเราไม่ได้คิดว่าตรงไหนสมทบ ตรไหนปกติ)
เราได้คุยเรื่องเหตุใดจึงมีปัญหาที่เกี่ยวกับการรับนักศึกษาเพิ่ม
ตัวอย่างคือ
หากเราจะเปรียบเทียบ คณะเราจะเป็นเหมือนเเตาเผา
และเด็กคณะสถาปัตย์คือ ดิน
อาจารย์คือผู้ปั้น
และสถาปนิกที่จบไปคือผลงาน
เตาเผาเราใช้เวลาในการเผา 5 ปี และมีขนาดจำกัด
ดินที่นำมาไม่เกี่ยวว่าเป็นดินอะไร เพราะช่างปั้นจะเอาดินเหลานั้นรวมกันแล้วปั้นออกมาเป็นชิ้นงาน
เมื่อมีที่ และเวลาจำกัด ช่างและ เตาเผาทำงานได้ไม่ทันและไม่พอเพียง
ผลงานทั้งหมดที่ออกมาจะเป็นอย่างไร
ย้ำว่าผลงานรวมทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับผลงานภาคปกติ ผลงานภาคสมทบ
มันเผาได้ไม่นานพอ มันก็หมายถึงการเผาทั้งหมด ไม่ได้หมายถึงการเผาภาคปกตินานพอ สมทบนานไม่พอ
ยังปั้นไม่สวยพอ แต่เมื่อต้องปั้นทั้งหมดก็ต้องเฉลี่ยกันไป ไม่ใช่สวยที่ภาคปกติมาก หรือห่วยที่ภาคสมทบมาก
และเมื่อตรีตราแล้ว ทุกชิ้นงานก็คือ
บัณฑิต สถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลับขอนแก่น รุ่นที่.......
เห็นถึงสิ่งที่เราเรียกร้องกันบ้างหรือยัง
เราไม่ได้บอกว่าเราไม่เอา
แต่เราต้องหารความพร้อมที่จะทำให้เราเป็นผลงานที่ดีที่สุด
อยากรับเราเยอะ อยากสร้างผลงานเยอะๆ ท่านมีเตาเผาพอหรือยัง
ท่านมีช่างปั้นเราพอหรือยัง
ช่างปั้นมีฝีมือที่จะสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์โด่ดเด่นพอหรือยัง
หากเพียงพอแล้ว
เอามาเลยครับ ปีล่ะ 300000000000000000000000000000000000000000000000000000000000
000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000
00000000000000000000000000คนก็เอามา อยากมีน้องเยอะๆเหมือนกัน
แต่ตอนนี้มันไม่เพียงพอจริงหรือไม่
นักศึกษา 1 ต่ออาจารย์ 8 หรือครับ
ลองคิดเล่นๆ ซิครับว่านักศึกษา 5 คนรอตรวจ thesis กับอาจารย์คนเดียวโดยที่อาจารย์ท่านนั้นยังมีสอน (แค่คิดก็เลิกอยากเป็นครูแล้วครับ)
แล้วถ้าเอาความจริงที่เป็นอยู่ตอนนี้ ใส่ลงเป็นแนวโน้ม
4 ปีข้างหน้า เราจะมีเด็ก 1200 คนต่ออาจารย์ 50 คน นี่ผมให้ว่าเรามีอาจารย์เพิ่มอีกปีล่ะ 2 คนนะครับ
คำนวนดูก็ไม่มาก แค่เด็ก24คนต่ออาจารย์ 1 คน
ก็ตรวจ thesis กัน 24 คนกับอาจารย์คนเดียวไง ไม่ยากนี่ครับ อาจารย์เราอึดอยู่แล้ว
เห็นชัดขึ้นบ้างรึยังครับ
ว่าเราไม่ได้รังเกียจน้องภาคสมทบ
แต่เราเป็นห่วงน้องๆทั้งหมดที่จะถูกปั้นถูกสร้าง ด้วยความไม่พร้อม
อยากรับภาคสมทบ 50 คน รับภาคปกติ 50 คนไม่มีใครว่าครับ
เพราะเราสร้างได้ และสร้างได้อย่างมีคุณภาพ
อยากรับ 240 คนอย่างวันนี้ รอไปอีกซัก 20 ปีแล้วทำไม่มีใครว่า
เรารักน้องทุกคน เรารู้ว่าเข้ามาแล้วเค้าต้องเก่งขึ้น
เรารู้ว่าเค้าเข้ามาเรียนแล้วเค้าก็จบไปเป็นสถาปนิคได้ไม่ว่าจะขี้เกียจ หรือขยัน
และเรารู้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวผู้เรียนเอง
แต่ขอย้ำให้ชัดเจน
ตัวผู้เรียนดีอย่างไร ก็ไม่สามารถเก่งเกินไปกว่าระบบที่จะสร้างคุณทั้งหมดครับ
ดินจะดีเพียงใด หากปั้นออกมาแบบลวกๆ ผ่านๆ
เผาแบบเร่งรีบและบดเบียด
ลงสีอย่างแข่งกับเวลา
สุดท้ายก็ห่วยอยู่ดีครับ |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ผู้อยู่ในเหตุการ อีกแล้ว
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 12:01 am เรื่อง: |
|
|
ผู้อยู่ในเหตุการ อีกแล้วเหรวะ (พิมพ์ผิดตั้งแต่ครั้งแรก จะแก้ก็กลัวจะว่าไม่ใช่คนเดิม เฮ้อ กรรม)
ว่ากันต่อเรืองของงบประมาณที่มีไม่พอเพียง งบติดลบ
ทั้งที่ยังไม่ได้ใช้ ตั้งมาจากไหน 2 ล้านแล้วเรามีล้านเดียว
โปรดฟังอีกครั้ง มันยังไม่ได้ใช้ก็ตั้งไว้แล้วว่าจะใช้ 2 ล้าน
ไม่มีเงินแล้วจะถอยหลังเข้าคลองนี่ ฟังแล้วคิดตาม ภาพที่ออกมาไอ้คนเขียนมันบ้ารึเปล่าวะครับ
งั้นต้องมีเท่าไหร่ครับถึงจะได้ไปข้างหน้ากับเค้าบาง
บอกหน่อยได้เปล่าครับ 20 ล้านมั้ยครับ หรือ200ล้าน หรือเท่าไหร่
แล้วการช่วยกันสอน ก็ไปอ่านอันที่แล้วนะครับ ว่าเมื่อช่วยกันสอนแล้วเด็กทั้งหมด ทั้ง 1200 คนนั้นจะเป็นอย่างไร
งบประมาณ มี 1ล้าน เอามาคุยกัน หารือซิครับ ใช้ยังไงให้ต่ำสุดและยังมีคุณภาพ
ถ้ามันออกมา 1.5 ล้านก็เก็บที่เด็กเพิ่มดิครับ คิดไปเลย เอาเด็ก 100 คนเด็กต้องใช้คนล่ะเท่าไหร่
ต้องออกคนล่ะเท่าไหร่ เพิ่มขึ้นมากแค่ไหน
ไม่ใช่ว่าต้องใช้ 2 ล้านเลยรับเด็กเข้ามาก่อน เอาให้ถึงก่อน
เด็กแต่ละคนมีต้นทุนนะครับ
ไม่ใช่ว่ารับมาแล้วเค้าไม่ต้องได้อะไรไปเลย
เรารับมาเพิ่มเพื่อต้องการ 1 หมื่นจากเค้า แต่เค้าก็มีต้นทุนมา 7500 เราเพิ่งได้มา 2500 จะเอา 1หมื่อนต้องเอาเข้ามา 4 คน
ที่นี้เราจะเอา 1 ล้าน ต้องรับ 400 คนเปล่าครับ
การที่จะถูกคนยอมรับน้อยลง
เพราะเราประจบประแจง เอาใจใครไม่เป็น
ช่างแม่งมันครับ (รุนแรงอย่างที่หวังไว้แล้วรึยังครับ พี่พี่)
คนเลว เราก็คุยดีครับ ไม่เห็นด้วยลองไปฟังเทปอย่างใจเป็นกลางดูนะครับ
ถ้าฟังแล้วยังไม่เห็นด้วยอีก
ช่างแม่งมันอีกทีครับ
การจัดการแบบนุ่มวลนี่ทำอย่างไร ช่วยอธิบายทีครับ
เฉยไว้เดี๋ยวมันก็แก่ตาย แล้วเราค่อยมาปรับปรุง ฟื้นฟู ยอมเสียคนไปไม่มาก 8 ปี (คิดว่าให้ท่านเป็น 2 สมัยล่ะกัน เพราะเราจะให้ท่านแก่ตายเองนี่)
ก็ประมาณ7200 คนเท่านั้นเองช่างแม่งมันอีก 2 ทีครับ
อ่านแล้ว ห่อเหี่ยวจังครับ
เหมือนเหตุการณ์นี้เลยครับ
มีคน 20 คนเข้าแถวกันอยู่ ทุกคนเร่งรีบที่จะทำธุระให้เสร็จสิ้น
มีคนมาแซงคิว
คนที่อยู่ท้ายแถวที่สุด ตะโกนออกมาว่า "พี่ครับ ต่อแถวซิครับ รีบกันทุกคน"
19 คนข้างหน้าคนที่ตะโกน คิดในใจพร้อมๆกันว่า
" แม่งเอ๊ย แค่นี้ก็รอไม่ได้ เดี๋ยวแม่งก้ไปแล้ว ทำเป็นโว้ยวาย กูอยู่หน้ามึงอีกโดนมันแซงเต็มๆยังไม่ว่าอะไรเลย"
"คนไทยรึเปล่าว่ะ ร้องโวยวายทำเหี้ยอะไร แค่นี้ก็ให้เค้าไปซิวะ"
"สาดดดด....ร้องห่าอะไรน่ารำคาญชิบเป๋ง ไอ้เหี้ยนี่ก็เหมือนกันมาแทรกทำไม"
ตกลงอยากให้สังคมเป็นอย่างนี้ไปชั่วลูกชั่วหลานใช่มั้ยครับ
บอกกันมาตรงๆ เราจะได้
ช่างแม่งมันอีกทุกทุกทีครับ |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 12:33 am เรื่อง: |
|
|
...ไม่รู้สึกว่าจะมีการใช้วาจารุนแรง ไม่มีคำหยาบคาย...
แต่วาจารุนแรงและคำหยาบกระจายอยู่หลายเวบบอร์ด และใบปลิว
ถ้าไม่ลำเอียง วันนั้นน้ำเสียงและกริยา ของศิษย์เก่าท่านหนึ่งช่างน่าหมั่นไส้ดีจริงๆ
อีกท่านก็ใส่อารมณ์ จนเปลี่ยนสรรพนามของคู่ต่อสู้จาก ...อาจารย์...ในตอนแรกเป็น...คุณ...
ฮืม..ก็ดูสุภาพอยู่หรอก...น่าใช้กับอาจารย์ทุกท่านอย่างเสมอภาค...
นักศึกษายังพูดดูมีสัมมาคารวะมากกว่าคนที่เป็นบัณฑิตซะอีก...
แต่อย่าปฏิเสธเลยว่าไม่มีเสียงโห่...อาจจะสมควรถูกโห่..หรือปล่าวไม่รู้ แต่ก็ดูไม่ดีอยู่นั่นแหละ
สมาคมศิษย์ยังไม่ควรเข้ามา เพราะดูเหมือนความต้องการของการประท้วงยังไม่ชัดเจน วันนั้นพูดถึงแต่เรื่อง การใช้สตูดิโอและการรับภาคพิเศษ ซึ่งเป็นเรื่องของนโยบาย ที่น่าจะถกกันในกรรมการคณะมากกว่า ไม่เหมาะสมที่สมาคมจะเข้าไปแทรกแซง ...จำนวนรับน่าจะลดลงตามที่เราต้องการ จบ...
ไม่แน่ใจว่าจะเถียงด้วยดีไหม? เดี๋ยวจะหาว่าเข้าข้างท่านคณบดี เพราะว่ากันตามตรงก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน เอาเป็นว่า ใส่กันเต็มที่เลยแล้วกัน เชียร์อย่างเดียวอาจจะสนุกกว่า
จะว่าไปแล้วน่าเลือก "ผู้อยู่ในเหตุการณ์" ข้างบนนี้เป็นคณบดีคนต่อไปจัง ดูเข้าใจเรื่องงบประมาณดีมาก แถมคงไม่มีใครกล้าประท้วงเพราะดูอารมณ์ ...แม่ง..น่ากัว... |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
archsake 16
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 12:41 am เรื่อง: |
|
|
อย่าทะเลาะกันเลยครับ
นะ นะ นะ
สำหรับน้องๆภาคพิเศษ ขอให้ทำความเข้าใจด้วยว่าไม่ได้โทษที่ตัวน้อง
จริงเคยอธิบายแล้วนะ ว่าแต่ตอนมาประชุมก็มาฟังบ้างหละจะได้ไม่เกิดปัญหาความเข้าใจผิดนะ น้องภาคพิเศษ |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
?
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 12:47 am เรื่อง: |
|
|
| น้องภาคพิเศษปีสอง'ถาปัด เหลือแค่ 28 คนไม่ใช่เหรอครับ |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ห. รุ่น ห.
เข้าร่วม: 17 Oct 2006
ตอบ: 4
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 2:10 am เรื่อง: |
|
|
| อ้างอิงจาก: | ...ผมเพียงบอกว่า ผมเห็นด้วยในการที่ เด็กๆ กล้าจะแสดงความเห็นออกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม
สงสัยก็ถาม ผมไม่อยากให้เด็กเป็นเหมือนผู้ใหญ่ยุคนี้ ที่คอยเอาแต่คอยแหย่ คอยแยงอยู่วงนอก ในที่ลับตา หรือ ที่ที่อันตรายไม่อาจเอื้อมถึง
ผมชื่นชมในความกล้าหาญที่จะเอาตัวเอง เข้าเผชิญหน้ากับปัญหา ไม่ใช่เอาตัวเองให้ห่างจากปัญหาและระบายออกแค่เพียงการบ่นที่ไร้ประโยชน์ ในที่ลับตาคน... |
เหอๆ .. พูดกับตัวเองหรอจ๊ะ ผู้อยู่ในเหตุการ |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
PeTe_AR_13
เข้าร่วม: 04 Nov 2006
ตอบ: 2
ที่อยู่: โลกมนุษย์
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 10:54 am เรื่อง: |
|
|
พี่น้องครับ นี่กลายเป็นว่า เรามาทะเลาะกันเอง ด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่อง มีเสียงฮือฮา
เสียงตะโกนโห่ไล่ หรือเปล่า อะไรเทือกนี้ไปซะแล้วนะครับ
ถ้าไม่มี ก็ ไม่ต้องเถียงต่อ เถอะครับ จบ ! ดีแล้วครับ ที่ นศ. ไม่เอาอารมณ์ เป็นที่ตั้ง ในการประชุม
ผมเข้าใจเจตนา พี่ ๆ ที่ต้องการมาเตือนว่า ถึงเขาจะเป็นศัตรู แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่
และก็เข้าใจ เจตนา น้อง ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เห็นเหตุการณ์ จริง ๆ รู้ ว่าอะไรเกิดจริง ๆ
เราคนบ้านเดียวกันนะครับ จุดมุ่งหมาย เพื่อคณะ ด้วยกันทั้งผอง มาทะเลาะกันทำไมครับ
_________________
 |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ผู้อยู่ในเหตุการณ์
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 1:18 pm เรื่อง: |
|
|
ขอบคุณ พี่พี่ ที่เริ่มเข้าใจ
ไปล่ะครับ ลาขาด |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ม่...ครับ
ป๋า
เข้าร่วม: 27 Dec 2001
ตอบ: 556
ที่อยู่: ...นั่นดิ
|
| ตอบเมื่อ: Sun Nov 05, 2006 9:22 pm เรื่อง: |
|
|
...อ่านแล้วงงง...
ตกลง มีคนโพสท์ถามเองตอบเองหรือ...ครับ
...อ่า
ถ้ามีอาจารย์ 37 คน...ก็น่าจะมีนักศึกษาประมาณ 296-370 คน...ตามอัตราส่วน 1:8 - 1:10 ...
ตกลงตอนนี้...เกินจำนวนหรือยัง...ครับ
อ่า...
"ชมรมศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น" น่ะครับ ไม่ใช่ "สมาคมศิษย์เก่า"...ยังไม่จดทะเบียนเป็นสมาคม...ครับ
เขียนมาเพื่อความรู้ความเข้าใจในข้อมูลที่ถูกต้อง...ครับ
จบแล้วก็อย่าสับสนระหว่าง"สมาคมสถาปนิกสยามฯ" กับ"สภาสถาปนิก"...น่ะครับ
_________________
P.O.Box 69 KKU. 40002 / คุยธุระ : 081-662-1020 / เม้าธ์กันนานๆ : 081-544-6498 |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
ภูวนาถ อาจวิชัย สถ 13 43
ผู้เยี่ยมชม
|
| ตอบเมื่อ: Mon Nov 06, 2006 4:35 pm เรื่อง: รู้รักสามัคี |
|
|
ไม่แปลกเลยว่าทำไมกรุงศรีถึงแตก เพราะคนไทยไม่สามัคคีกัน .......เอาแต่ทะเลาะกัน มาแนวเดียวกันอยู่ดีๆๆ กลับแบ่งแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย ........ใช้อารมณ์ไม่ดีครับ .......ใช้วาจาอยาบคายก็ไม่ดีครับ .....พูดแต่ปากไม่เคยกระทำ ก็ไม่ดีครับ ........เอาแต่ด่าคนอื่นโดยไม่คำนึงถึงเหตุและผลก็ไม่ดีครับ ..........โกงกินก็ไม่ดีครับ ........พูดอย่างทำอย่างมันก็ไม่ดีครับ ..........โบ้ยความผิดให้คนอื่นตลอดมันก็ไม่ดีครับ ......... ไม่เคารพผู้ใหญ่ก็ไม่ดีครับ ............ ผู้ใหญ่ทำตัวไม่สมกับการเคารพก็ไม่ดีครับ .........เห็นแก่ตัวมันก็ไม่ดีครับ ..........ข้อมูลไม่ถึงก็เอามาพูดก็ไม่ดีครับ.......... บ้าอำนาจก็ไม่ดีครับ..........ไม่รับฟังคนอื่นก็ไม่ดีครับ..............ทำทุกอย่างเสียโดยไม่ดูสถาพตัวเองก็ผิดครับ...........พี่ด่าน้องโดยไม่เข้าใจเหตุผลก็ผิดครับ...................น้องด่ารุ่นพี่ไม่ช่วยอะไรเลยก็ผิดครับ...............บางคนคิดเคลือบแคลงในความหวังดีของนักศึกษาโดยไปนำหาผลประโยชน์ให้ตัวเองก็ผิดครับ.................หรือบางคนไม่เคยรับรู้ถึงข้อเท็จจริงก็มาด่าก็ผิดครับ...............สิงที่ถูกผิดมันก็มีทุกคน คนเราไม่ได้ถูกต้องเสมอ ไป สิ่งใหนที่คิดว่าผิดก็แก้ไขกันซะ ดูตามเหตุผลและข้อเท็จจริง แล้วแก้ปัญหา ไม่ใช่มาด่ากัน ยังกะไม่ใช่สถาบันเดียวกัน ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิดไม่มีอะไรนอกจากนี้ ใครทำผิดก็ยอมรับและแก้ไข ถ้าไม่ยอมแก้ไขจะอยู่ในสังคมได้อย่างไร ใครจะเคารพ
คนที่สมควรเคารพ มันอยู้ที่ใจห้ามไม่ได้หรอก
สังคมจะดีถ้ามีคนดีปกครองไม่ให้คนไม่ดีก่อความเดือดร้อนและและก่อวุ่นวายได้
รู้รักสามัคคี
......................................................พระราชดำรัสในหลวง............................................. |
|
| ขึ้นไปข้างบน |
|
|
