Baanhaus

Tadao Ando - Pounding The Sandbag 26 Feb 2005

คำนำ จากหนังสือ ANDO ARCHITECT
แต่งโดย Kazukiyo Matsuba
แปลและเรียบเรียงโดย - ดร.พร วิรุฬห์รักษ์

ทาดาโอะ อันโดะ เกิดที่เมือง โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองที่ เป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า
และอุตสาหกรรมของประเทศมาแต่ครั้งโบราณ จากการที่เขาเติบโตขึ้นมาในย่านชุมชนที่เต็มไปด้วย
โรงงานเล็กๆ ทำให้เขาได้รับการอบรมในแง่ของ ระเบียบวินัย การทำงานหนัก และ ความรับผิดชอบ 
และเนื่องจากได้รับอิสระเป็นอย่างมากในสมัยเป็นเด็กๆ เขากลายเป็นเด็กที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
มาก คุณปู่และคุณย่า
(อาจจะเป็นตาหรือยายก็ได้ เพราะมาจากคำว่า Grandparents) ซึ่งเป็นผู้ที่เลี้ยงดูเขามานั้น เป็น
ผู้ที่ต้องทำงานหนักทั้งคู่ และก็ไม่ได้หวังมากมายว่าจะให้เด็กชายทาดาโอะ คนนี้ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
ฉกาจเลิศเลอ ซึ่งในที่สุดในช่วงปลายวัยรุ่นของเขา เขาได้ให้ความสนใจกับการชกมวยเป็นอย่างมาก และ
ถึงขนาดไปขึ้นชกจนได้ใบประกาศรับรองความเป็นนักชกอาชีพเรียบร้อยก่อนที่จะเรียนจบมัธยมปลาย 
แต่หลังจากที่เรียนจบ แทนที่เขาจะมุ่งหน้าชกมวยอย่างจริงจัง เขากลับเลือกที่จะทำงานเป็นพนักงานเขียน
แบบ
ในสำนักงานสถาปนิกแห่งหนึ่ง ซึ่งแตกต่างกับพนักงานเขียนแบบที่ทำงานในญี่ปุ่นหรือในที่อื่นๆ สมัยนั้น 
ด้วยความที่ทาดาโอะ อันโดะ ไม่เคยไปร่ำเรียนวิชาสถาปัตยกรรมหรือการเขียนแบบใดๆ มาจากใน
มหาวิทยาลัยทาดาโอะ อันโดะคนนี้ ไม่มีปริญญา แต่เขาใช้เวลามากมายในช่วงทศวรรษ 1960s ซึ่งอยู่ใน
วัย 20 กว่าๆของเขา ทำการศึกษาการเขียนแบบด้วยตัวเอง รวมทั้งทำการ ท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ และ
ทั่วโลก 

ถ้า Tadao Ando ผู้ซึ่งมีความเป็นตัวของตัวเองและมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากนั้น จะ มีภาพพจน์ที่ไม่
เหมือนกับลักษณะของชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จากสายตาของชาวโลก ก็เนื่องมาจากว่า เขาไม่ได้เป็นชาวญี่ปุ่น
กระแสหลัก แต่เขาคือ Osakaite หรือ ชาวเมือง Osaka ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของเขต Kansai (ฟังดู
เล็กๆ แต่จริงแล้วเหมือนมณฑล หรือ รัฐ) ชาว Kansai นั้นจะมีลักษณะและวัฒนธรรมในการดำรงชีพ แตก
ต่างจากชาวญี่ปุ่นอื่นๆ ลักษณะเด่นคือการที่แสดงอารมณ์อย่างตรงไปตรงมา และมีความกระตือรือร้น
มากกว่า เทียบกับ ความสุขุมและค่อนข้างเก็บตัวของชาวโตเกียว และถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่มี
ระเบียบวินัยในการใช้ชีวิต และมีความตั้งใจในการทำงานไม่แพ้ชาวญี่ปุ่นอื่นๆ พวกเขาก็มักจะถูกนับว่าเป็น
พลเมืองชั้นรอง นอกจากนี้ แม้ว่าจะมี นโยบายรวมชาติผ่านทางการสร้างวัฒนธรรมของประเทศให้เป็น
หนึ่งเดียว ที่ได้ปฎิบัติกันมาทั่วประเทศนับตั้งแต่ต้นศตวรรษ ชาว Kansai ก็ยังคงปฎิเสธที่จะยกเลิกภาษา
ท้องถิ่นของเขาในการสนทนาประจำวัน

Tadao Ando เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากคนที่รู้จักว่า เป็นบุคคลที่มีศักดิ์ศรีในตัวเองมาก จากวิธีการทำ
งานของเขา ซึ่งเขากล้าจะยินดีรับผิดชอบกับผลลัพธ์ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นจากงานที่เขาทำ และเขาจะเป็นคน
ทำงานละเอียดละออมากๆ โดยจะตรวจตราในทุกๆจุดอย่างถีถ้วนเสมอ และจากที่ได้รับการกล่าวถึงใน 
นิตยสารสถาปัตยกรรมในประเทศญี่ปุ่นว่า เขามีรสนิยมของความงานที่สลับซับซ้อน (อาจจะแปลว่า พิลึก
ก็ได้ ถ้าพูดแบบสุภาพตามประสาคนญี่ปุ่น - ผู้แปล) แต่ก็มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ ไม่หวั่นไหว ที่จะทำ
งานในเชิง Modernism (ในที่นี้หมายถึงแนวทางที่สถาปนิก ยุโรป เช่น Gropius � Mies หรือ Ler 
Corbusier วางเอาไว้) โดยไม่ข้องแวะเข้าไปในกระแสอื่นๆ ที่มาตาม Fashion แต่อย่างใด

อาจจะเป็นการที่จะพูดเกินจริงว่า มหานครโตเกียว นั้นก็คือประเทศญี่ปุ่น แต่จากตัวเลขจะเห็นได้ว่า 70% 
ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ มากจากโตเกียว และนั่นก็รวมถึงธุรกิจก่อสร้างด้วย ในขณะที่คนอเมริกัน 
หรือคนยุโรปไม่ได้สนใจที่จะต้องเดินทางไปอยู่ในเมืองใหญ่ๆ เพื่อที่จะทำธุรกิจหรือหางานทำเพื่อความ
เจริญก้าวหน้า ประเทศใน เอเชียอย่าง ญี่ปุ่น ผู้คนยังคงให้ความสำคัญ และเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ว่าคุณ
ประสบความสำเร็จในโตเกียวหรือไม่ แต่สำหรับ Tadao Ando แล้ว เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้แต่อย่างใด
 เขาได้ก่อตั้ง Office ไว้ที่เมือง Osaka ที่เขาคุ้นเคย มาตั้งแต่เริ่มต้น และไม่เคยย้ายไปไหน แม้ว่าปัจจุบัน
จะเป็นบริษัทระดับโลกไปแล้วก็ตาม 

ในช่วงทศวรรษ 1980s วงการการออกแบบสถาปัตยกรรมในญี่ปุ่นเริ่มมาถึงจุดหักเห เมื่อ ความ Pure 
และ Functionalism ต่างๆ เริ่มเจือจาง และมีสถาปิกหลายๆ คนได้หันกลับมาหาความเป็นญี่ปุ่นมากขึ้น 
โดยต้องการที่จะหา identity อันใหม่ ของสถาปัตยกรรมที่แสดงความเป็นญี่ปุ่น โดยแนวทางของการ
พัฒนาเพื่อค้นหานี้ จะแยกออกเป็น 2 กลุ่ม หนึ่งคือกลุ่มที่ยังคงยึดความเป็น Modern อยู่เป็นฐาน และ
อีกกลุ่มคือ กลุ่มที่ต้องการจะหา Style อื่นๆ โดยไม่ยึดติดกับอะไร สถาปนิกหลายๆ คนหันไปหาแนวทาง
ใหม่เป็นส่วนใหญ่ แต่ Tadao Ando ก็ไม่ใสใจกับคลื่นความเปลี่ยนแปลงนั้น ยังคงทำงานแบบ Modern 
ของตัวเองต่อไป

มีหลายๆครั้ง ที่ สถาปนิกและนักวางผังเมืองชาวยุโรปและอเมริกันได้กล่าวยกย่อง ความตั้งใจอย่างแน่ว
แน่ในไม่เปลี่ยนแปลง ในการทำงานStyle Modern ของ Tadao Ando ต่อหน้าข้าพเจ้า (Mr.Matsuba ผู้
เขียน) โดยที่ไม่ทราบว่าข้าพเจ้าเป็นเพื่อนสนิทของเขา เนื่องจากในคนกลุ่มนี้ ทั้งที่มีชื่อเสียงมากและไม่
ค่อยมีชื่อเสียง ได้ทำการผันตัวเองไปตามกระแสของโลกที่ต้องการสีสันใหม่ๆ โดยการออกจาก Modern 
เข้าไปหา Post Modern และกระแสอื่นๆ ที่ตามมา แต่ทุกๆคนก็ยังยกย่องAndo ที่เหมือนเป็นตัวแทนที่
กำลังทำในสิ่งที่พวกเขาอยากจะทำ แต่ไม่สามารถทำได้แล้ว

จากบ้าหลังเล็กๆ ที่มีขนาดประมาณ 100 ตารางเมตร (Row House Sumiyoshi) ที่เป็นงานสร้างชื่อของ
เขา Ando ได้ทำการออกแบบอย่างดุดัน และค่อยข้างจะเป็นเรื่องที่มีความเสียงสูงในด้าน Trend ที่จะยัง
คงใช้ ความเป็น Abstract ของรูปทรง และ ความงามในด้านสัดส่วน (ทำมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยน) เขา
พยายามเปิดตัวเองอยู่เสมอและหาโอกาสอธิบายงานของเขาต่อทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามาในเส้นทางการ
ดำเนินชีวิตและการทำงาน เพื่อเป็นการเผยแพร่สิ่งที่เขาเชื่อและปฎิบัติอยู่ 

แต่อย่างไรก็ตาม จุดที่เป็นความแข็งแกร่งที่สุดในการทำงานของเขานั้น คือ ความสามารถในการ ใช้รูป
ทรงที่สร้างความงามเหนือกาลเวลาให้กับสัดส่วนของอาคาร (His Mastery of Geometry that sustains 
a supeb sense of proportion) ซี่งในปัจจุบัน Ando อาจจะเป็นคนเดียวที่ทำได้ ไกลขนาดที่เห็น

ถ้าจะพูดสั้นๆ ก็คือ Tadao Ando พยายามที่จะ มุ่งหน้าทำงานเพื่อสร้างสรรค์ ความงามของ
สถาปัตยกรรม Modern โดยไม่ใส่ใจว่าโลกรอบๆ ตัวนั้จะเปลี่ยนไปอย่างไร อาจจะเป็นการสื่อให้เห็นแนว
คิดว่า เขามีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า Modernism นั้นเป็น อุดมคติอันถาวรของโลกปัจจุบัน ในขณะที่ 
Post-Modernism นั้นเป็นเพียงแค่แสงวูบวาบของดาวตกเท่านั้น ในด้านทักษะทางการสนทนาและการเข้า
สังคมนั้น Ando เป็นคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ฟังที่มีความตั้งใจที่จะเข้าถึงความต้องการของลูกค้า
มากกว่า สถาปนิกคนอื่นๆ แต่ในสภาวะของการทำงานแล้ว เขาเป็น Creator หรือผู้สร้าง และจะไม่ยอม
อ่อนข้อในเรื่องของแนวทางการออกแบบที่เกี่ยวกับ Modernism นี้แม้แต่นิดเดียว ซึ่งลักษณะตรงข้ามที่
ผสมผสานกันเป็นอย่างดีนี้ เป็นที่นิยมชบชอบของคนทั้งในและนอกวงการสถาปัตยกรรม
 



http://www.asa.or.th/02community/01webboard/detail.aspx?ID=00091810